พระราชวังเคียงบกกุง

           พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) 

        
       พระราชวังคยองบกกุง ถ้าไม่ได้มาเยี่ยมชมเหมือนมาไม่ถึงกรุงโซล แม้อาจจะดูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกทัวร์ต้องพาคนมาชม คนเยอะแยะ แต่ก็ยังมีความน่าสนใจและน่าประทับใจที่จะเข้าไปเยี่ยมชมอยู่ไม่น้อย ขอเล่าประวัติความเป็นมาของพระราชวังแห่งนี้สักหน่อย รีวิวทริปของเราได้ดูมีสาระบ้าง พระราชวังคยองบก ถือว่าเป็นพระราชวังที่สำคัญ 1ใน5 ของพระราชวังสำคัญในกรุงโซล  วังแห่งนี้เป็นพระราชวังที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สร้างมาตั้งแต่ในยุคโชซ็อน และมีการสร้างอาคารและต่อเติมกันมาเรื่อยมีหมู่อาคารถึง 200 กว่าอาคารแต่ในสมัยที่ญี่ปุ่นทำสงครามกับเกาหลีในสมัยโบราณ วังแห่งนี้ถูกเผาและทำลายลงไปส่วนหนึ่ง ต่อมาได้มีการบูรณะขึ้นมาใหม่ตามแบบแผนเดิมในสมัยของพระเจ้าโคจอง เมื่อราวร้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่มีการสร้างเฉพาะตำหนักสำคัญๆ เพียง 10 ตำหนัก ในปัจจุบันนี้ก็ยังมีการบูรณะอาคารสำคัญๆอยู่
     การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานี Gyeongbokgung palace station ออกทางออก 5 เดินไม่ไกลจะเจอทางเข้าพระราชวัง
รถไฟใต้ดินสาย 5 ลงสถานี Gwanghwamun station ออกทางออก 2 เดินค่อนข้างไกลเกือบครึ่งกิโลได้แนะนำ รถไฟใต้ดินสาย 3 เดินใกล้สุด
     การแสดงทหารเปลี่ยนเวรเฝ้าประตู : มีแสดงทุกวัน 10.00 น., 13.00 น. และ 15.00 น.บริเวณประตูฮึงแนมุน และที่ ประตูควางฮวามุน เวลา 11.00 น., 14.00 น.และ 16.00 น
เราจะพบกับ ประตูควางฮวามุน เป็นซุ้มประตูเมืองขนาดใหญ่เป็นทางเข้าสู่พระราชวังคยองบก และยังเป็นที่ตั้งของจตุรัสควางฮามุน ที่เป็นทางเดินและที่จัดกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งเป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์ของพระเจ้าเซจง และอนุสาวรีย์ของนายพลยี่ชุนชิน นักรบที่นำทัพเกาหลีต่อสู้กับกองทัพญี่ปุ่น
มาถึงที่นี่ช่วงเย็นมีฝนตกปรอยๆ เล็กน้อยเวลาค่อนข้างจะน้อยเพราะวังใกล้ปิดเสียแล้ว เลยไม่ได้เข้าส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ทั้งสองแห่งที่อยู่ภายในพระราชวังคยองบก แม้จะเย็นแล้วแต่คนยังเยอะ คนเกาหลีและนักท่องเที่ยวแต่งชุดฮันบกมาถ่ายรูปดูแล้วได้บรรยากาศวังโบราณ


    พระที่นั่งคึงจองจอน เป็นพระที่นั่งที่กษัตริย์ใช่ออกว่าราชการและเป็นที่ทรงงานของพระองค์อีกด้วย ภายในพระที่นั่งไม่สามารถเข้าไปชมภายในได้แต่สามารถถ่ายภาพจากด้านนอกได้ ภายในเหมือนพระราชวังก่อนๆคือไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเหลือ มีเพียงแค่แท่นที่ประทับของกษัตริย์เท่านั้น แต่มีการรักษาอย่างดี ลวดลายตกแต่งคล้ายกับพระราชวังอื่นๆ ลานหน้าพระที่นั่งตรงนี้เป็นจุดที่คนนิยมมาถ่ายรูปกัน


เราเดินต่อเข้ามาด้านในของวัง จะเป็นส่วนพระตำหนักต่างๆ มีมุมน่าสนใจหลายที่ด้วยเป็นวังที่มีขนาดใหญ่มีพระตำหนักที่สวยงามและศาลากลางน้ำที่สวยงามอีกด้วยเดินชมแล้วเหมือนได้ย้อนยุคกลับไปในสมัยก่อน เดินเที่ยวชมได้เพลินๆถ้าเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี หรือเวลาที่มีหิมะตกคงสวยงามมากๆเราเดินมาที่พระตำหนักที่สำคัญอีกตำหนักของพระราชวังแห่งนี้ คือ พระตำหนักอกโฮรู พระตำหนักนี้มีความสำคัญสองอย่าง อย่างแรกเป็นพระตำหนักแห่งแรกที่มีไฟฟ้าใช้ ซึ่งทำการติดตั้งโดย บริษัท โธมัส เอดิสัน จากอเมริกา และความสำคัญที่สอง คือเป็นพระตำหนักของ มเหสีมิน ซึ่งถูกปลงพระชนม์โดยทหารญี่ปุ่น และพระตำหนักแห่งก็ถูกเผาทิ้ง ที่เราเห็นตอนนี้เป็นการสร้างขึ้นมาใหม่ตามรูปแบบเดิมเดินออกมาด้านนอกเราพบกับสระน้ำขนาดใหญ่เห็นสีของน้ำเป็นสีเขียวแต่น้ำใสมองเห็นปลาแหวกว่าย พระตำหนักนี้มีชื่อว่า คยองโฮรู เป็นที่จัดเลี้ยงและพระราชพิธีต่างๆ ที่นี่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.1867 ในสมัยราชวงศ์ โชซ็อน ซึ่งสร้างอยู่ในทะเลสาบแต่ที่นี่ไม่ได้เปิดให้คนเข้าชมพระตำหนักจีบอกจีและเฮย็อบกินดัง เป็นพระตำหนักที่ถูกสร้างขึ้นโดย พระเจ้าโคจอง แต่เดิมสร้างไว้ที่พระราชวังชังด็อกุกง พอพระราชวังคยองบกกุง ได้รับการซ่อมแซมเสร็จพระองค์จึงย้ายตำหนักนี้มาไว้ที่นี่ ในสมัยพระองค์ใช้เป็นที่ต้อนรับชาวต่างชาติและเป็นหอสมุด พระตำหนักนี้สร้างแบบสถาปัตยกรรมจีน ตำหนักนี้ไม่ได้เปิดให้เข้าชมด้านใน

เราเดินออกมาที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของพระราชวังคยองบก แต่เข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์ไม่ทันเลยได้แต่เดินชมรอบได้ รอบๆจะมีบ้านโบราณจำลองและรถรางเก่า และมีเจดีย์ห้าชั้นเด่นสง่าและภายใต้เจดีย์นั้นเป็นพิพิธภัณฑ์ ด้านอกที่น่าสนใจคือบ้านโบราณที่มีการย้ายมาปลูกที่นี่ ได้เหมือนเดิมทุกประการ
ส้วมโบราณมีกาจำลองมาให้ชมอีกด้วย รวมที่เก็บข้าวซึ่งมีครกกระเดื่องใช้ตำข้าวให้ชม อีกด้วยของตกแต่งในบ้านโบราณเป็นของเก่าดั้งเดิมเกือบทั้งหมด เราเดินออกจากพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแล้วข้ามมาฝั่งตรงข้ามจะพบกับหอศิลป์ร่วมสมัย โซล อยากบอกว่าเสียดายที่มาไม่ทันเพราะเขาปิดเลยไม่ได้เก็บภาพภายในมาให้ชม เคยเห็นจากรีวิวคนอื่นภายในออกแบบได้น่าสนใจมาก เราเลยได้เก็บภาพเฉพาะด้านนอกเท่านั้น ด้านในพิพิธภัณฑ์ มีอาคารที่เป็นเหมือนพระตำหนักในพระราชวังด้วย 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ sanrio.png


ที่มา:https://letseatandtravel.wordpress.com/2017/09/20/my-soul-in-seoul-palace-พระราชวังคยองบกกุง/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น